ประวัติพระอาจารย์ วรงคต วิริยะธโร ( หลวงตาม้า )
วัดพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ) ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
ชาติภูมิ
พระอาจารย์วรงคต วิริยะธโร มีชาติกำเนิดในสกุล สุวรรณคุณ เดิมชื่อ นายวรงคต สุวรรณคูณเกิดเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2487 บ้านเดิมอยู่ที่ อำเภอนรนิวาส จังหวัด สกลนคร โยมบิดาชื่อ นายวันดี โยมมารดาชื่อนาง โสภา ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด 3 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 2 ของครอบครัว
สู่เพศพรหมจันทร์
หลวงตาม้าท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ดู่และท่านได้อยู่ฝึกกรรมฐานกับหลวงปู่ดู่ในเพศฆราวาสเป็นเวลาเกือบ 20 ปีแต่ก่อนที่หลวงปู่ดู่ท่านจะมรณภาพไปไม่นานนั้นหลวงปู่ท่านก็ได้สั่งให้หลวงตาม้าท่านบวช
ท่านได้เข้าพิธีบรรพชาอุปสมบท เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2531 เวลา 10.06 น. ตรงกับวันอาทิตย์ ณ วัดพุทไธสวรรค์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีพระครูภัทรกิจ (หลวงพ่อหวล) และเจ้าอาวาสวัดพุทไธสวรรค์ เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระครูสุนทรธรรมนิเทศ (บุญส่ง) เป็นพระกรรมาจารย์ และมีพระครูพิจิตรกิจจาทร (เสน่ห์) เป็นพระอนุศาสนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ?วรงคต วิริยะธโร?
บำเพ็ญสมณธรรม
พอออกพรรษาแรกท่านได้ไปกราบหลวงพ่อหวลเพื่อขออนุญาติออกธุดงค์ เมื่อหลวงพ่อหวลอนุญาติแล้ว ท่านก็ไปกราบหลวงปู่ดู่ที่วัดสะแก คืนนั้นไม่มีใครอยู่เลยที่กุฎิหลวงปู่ดู่ มีเพียงหลวงปู่และหลวงตาเท่านั้น ท่านเลยกราบลาหลวงปู่ดู่คืนนั้น หลวงปู่ดู่ท่านได้เทศสอนหลวงตาและบอกกับหลวงตาม้าในครั้งนั้นด้วยว่า "จำไว้ไม่ว่าแกไปไหนเหรออยู่ที่ไหนข้าก็อยู่ด้วยแกเอาพระองค์นี้ไป(พระรูปหล่อเหมือนหลวงปู่ดู่)หากเองสงสัยอะไรในการปฎิบัติให้แกถามเอากับพระองค์นี้"หลวงปู่ดู่ท่านให้พระปูนรูปเหมือนหลวงปู่ดู่ 1 องค์ หลวงปู่ดู่ท่านยังเมตตาให้เงินติดตัวท่านมาอีก 500 บาท พร้อมทั้งของใช้สำหรับสงฆ์ พร้อมกับสั่งให้ท่านขึ้นไปอยู่ที่ภาคเหนือเพราะเหตุผลบางอย่าง พอตอนเช้าหลวงปู่ดู่ท่านได้ให้พระในวัดสะแก นำปิ่นโตข้าวมาให้หลวงตาเพราะทราบว่าท่านไม่ได้ออกบิณฑบาตร เพราะเตรียมธุดงค์ขึ้นเหนือ หลวงตาม้าท่านได้ธุดงค์รอนแรมอยู่เป็นเวลานานตามภาคเหนือของประเทศไทยตั้งแต่เมื่อประมาณเกือบ 20 กว่าปีก่อนท่านได้ธุดงค์แวะภาวนาตามถ้ำต่างๆเรื่อยไปในส่วนเรื่องราวการธุดงค์ของท่านหลวงตาม้านี้สนุกและพิศดารมาก อยู่มาวันหนึงท่านได้มาพักอยู่ที่พระธาตุจอมแจ้ง หรือพระธาตุจอมกิตติ พอท่านมาถึงท่านได้ตั้งจิตอธิษฐานกลางแจ้งเลยว่า ท่านอยากจะหาสถานที่ที่สงบท่านต้องการจะเก็บตัวสัก พอเช้าวันรุ่งขึ้นมีผู้เฒ่าชราผู้หนึงมาบอกท่านว่าที่เมืองนะ มีถ้ำน่าอยู่แห่งนึง ท่านบอกว่าถ้าไม่เจอะผู้เฒ่าผู้นี้ท่านคงไปอยู่ที่พระบาท 4รอยแทน ท่านได้ธุดงค์ไปเรื่อยตามญาณหลวงปู่ดู่ไปจนเจอเข้า กับถ้ำแห่งหนึงซึ่งชาวบ้านแถวนั้นเรียกว่าถ้ำเมืองนะซึ่งตรงกับที่ผู้เฒ่าผู้นั้นมาบอก พอท่านถึงถ้ำเมืองนะแล้วท่านจึงได้บำเพ็ญเพียรภาวนาอยู่ที่ถ้ำแห่งนี้ และได้ส่งข่าวมาทางหลวงปู่ดู่เวลาผ่านไปจนเข้าปี 2533 หลวงตาม้าท่านได้ทราบว่าหลวงปู่ดู่ท่านได้ละสังขารแล้วท่านจึงได้เดินทางกลับไปยังจังหวัดอยุธยา หลังจากงานพระราชทานเพลิงศพของหลวงพ่อดู่ ได้ผ่านไปเรียบร้อยแล้วหลวงตาท่านก็ได้เดินทางกลับไปยังถ้ำเมืองนะท่านได้อยู่ภาวนาอย่างเงียบๆในถ้ำนั้นเป็นเวลานับ 10 ปีโดยมีชาวบ้านในละแวกนั้นซึ่งเป็นชาวไทยและชาวไทยใหญ่คอยอุปัฐฐากท่านตลอดมาหลวงตาม้าท่านเมตตามากการปฎิบัติของท่านในตอนแรกเป็นไปเพื่อหลุดพ้นในชาตินี้แต่หลังจากที่ท่านภาวนาไปท่านได้รับกระแสพุทธภูมิเก่าของท่านเข้าที่จิตจนทำให้ท่านเกิดความเมตตาสงสารและอฐิษฐานจิตต่อเพื่อฉุดช่วยให้สัตว์ทั้งหลายทั่วทั้ง 3 โลกธาตุมีที่พึ่งมีร่มโพธิ์ร่มไทรนับว่าเป็นเมตตาอันนับประมาณมิได้ของท่านจนถึงวันหนึ่งท่านก็ได้เริ่มออกสังคมและเริ่มสร้างวัดขึ้นที่นั้นและสั่งสอนลูกศิษย์เรื่อยมาจนถึงบัดนี้ ปฎิปทาของท่านหลวงตาเป็นการบำเพ็ญแนวโพธิสัตว์และลูกศิษย์หลายๆคนได้ประจักษ์ถึงบารมีท่านในด้านพุทธภูมิมาแล้วทั้งนั้น นับว่าท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีญาณบารมีแก่กล้าและเมตตาอันล้นเหลือ มากรูปหนึ่งในปัจจุบันที่สั่งสอนคนให้เดินบนเส้นทางแห่งธรรมะ และท่านยังเป็นผู้ที่สืบทอดวิชาต่างๆของหลวงปู่ดู่ในปัจจุบันอีกด้วย ทั้งด้านการภาวนาเปิดโลก และ ด้านการสร้างพระเครื่อง ซึ่งท่านได้เมตตาสั่งสอนถ่ายทอดให้แก่ลูกศิษย์ในปัจจุบัน เพื่อนำไปช่วย มนุษย์และภูมิทั้งหลาย ตลอดถึงความสงบแก่จิตและการอยู่เย็นเป็นสุขของผู้ปฎิบัติ
เครดิตจาก : http://www.bp.or.th/webboard/index.php?topic=7074
พระผงจักรพรรดิ์ หลวงตาม้า
พระผงจักรพรรดิ์ เป็นพระผงปูนซีเมนต์ขาว ผสมด้วยผงมหาจักรพรรดิ์ที่ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านได้ลบผงและปลุกเสกไว้ วิชาการสร้างพระผงจักรพรรดิ์นี้ได้สืบต่อมาสู่พระเดชพระคุณ พระวรงคต วิริยธโร (หลวงตาม้า) แห่งวัดถ้ำเมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งท่านเป็นครูบาอาจารย์ที่ปฎิบัติตามแนวทางของหลวงปู่ดู่
พระผงสูตรหลวงปู่ดู่ที่ท่านหลวงตาท่านได้จัดสร้างนี้ เจตนาการจัดสร้างบริสุทธิ์เพื่อแจกแก่ญาติโยมศรัทธาที่มาทำบุญที่วัดถ้ำเมืองนะ หรือแม้แต่ตอนที่หลวงตาท่านเดินทางไปที่ใดท่านก็จะนำพระผงไปแจกด้วยทุกครั้ง พระผงที่ท่านจัดสร้างนี้ท่านได้อธิษฐานจิตอัญเชิญบารมีคุณพระรัตนตรัย บารมีหลวงปู่ทวด และหลวงปู่ดู่มาสถิตอยู่ในรูปลักษณ์ทั้งหลาย สามารถนำพระผงมาแขวนบูชาเพื่อปกป้องคุ้มครอง และยังสามารถนำมากำไว้ในมือในขณะนั่งสมาธิ เพื่อขอบารมีพระท่านให้ช่วยดำเนินจิตให้เป็นสมาธิในขณะปฎิบัติธรรมได้อีกด้วย และหากท่านใดปฎิบัติๆไปอาจจะได้พบเห็นปาฎิหารย์ของพระธรรมธาตุที่เสด็จมาที่องค์พระเองได้ด้วย หากท่านปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ
พระผงจักรพรรดิ์ สูตรหลวงปู่ดู่นี้ จะมีพระธรรมธาตุ หรือไม่มีก็ตาม พุทธคุณล้วนเหมือนกันหมด เป็นของดีที่หลวงตาท่านตั้งใจมอบให้ญาติโยมทั้งหลายได้บูชาติดตัว และนำมาใช้คู่กับพระคาถาจักรพรรดิ์ของหลวงปู่ดู่ ก็ยิ่งส่งเสริมให้ผู้บูชาพบแต่สิริมงคลยิ่ง มีผู้แชร์ประสบการณ์ว่า ผู้หญิงวัยรุ่นคนหนึ่งปวารณาอยู่วัดเพื่อช่วยเหลือวัดอย่างเต็มใจนานหลายเดือน พอถามว่าทำไมเกิดศรัทธาขนาดนี้ เธอเล่าว่าถ้าไม่มีพระผงนี้เธอคงตายไปแล้ว เพราะรถเธอหลุดโค้งแถวเมืองงายกลางดึกขณะกำลังจะเดินทางมาวัด รถของเธอไถลออกนอกทางแล้วไปฟาดกับหลักกิโล รถพังยับทั้งคันเหลือเพียงแต่คอนโซลหน้าบริเวณช่วงคนขับเท่านั้นที่รถยุบมาไม่ถึง ในตัวของเธอมีพระผงจักรพรรดิ์ของหลวงตาม้าห้อยอยู่องค์เดียวเท่านั้น
หน้าที่เข้าชม | 519,994 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 393,322 ครั้ง |
เปิดร้าน | 14 ก.พ. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 1 ต.ค. 2568 |
โอกาสหน้าแวะมาอุดหนุนใหม่อีกนะคะ