วิชาสาริกา หลวงปู่ได้มาจากพระธุดงค์ ในป่า ดงพญาไฟ ท่านปั้นดินหยาบเป็นนกไม่สวยเสกปั๊บเป็นนกใหญ่ตัวดำเกล็ดเป็นนิล ในที่มืดยังมีแสงแวบๆพระในป่าท่านว่า สาลิกา นี้ จะให้คาบวัว คาบควาย คาบบ้านคาบเรือนก็ได้ ท่านว่า แม้แต่คาบผู้หญิงมาให้ “ มึง ” ก็ได้ ตุ๊เจ้าป่าตอบว่า ผมไม่เอาครับผู้หญิง ผมเอาวิชาหลวงพ่อดีกว่า ท่านในป่าก็สอนวิชา สาลิกา ให้ ตุ๊เจ้าป่าลองทำ เสกแล้ว พอมีเสียงนกร้อง สาริกาท่านก็บินออกจากถ้ำได้
ตุ๊เจ้าป่า สร้างสาริกา ให้ลูกหลานได้ใช้ สุดยอดมวลสารหายากมาก ผงกาฝาก ๑๐๘ ป่า เกสร ๑๐๘ ป่า ที่สำคัญ ขี้ผึ้งปากผีตายโหง เรียกว่าสาริกาจับปากโลง อันเป็นสุดยอดวิชาเมตตามหานิยมจริงๆ
คาถาบูชาก็ต้องหมั่นท่องทุกคืน “โอมปลุกปลุก รุกแล้วอย่านอน ครูกูสอน อย่าช้าสาลิกาเจ้าเอ๋ย อย่าเฉยเลยรา ครูสั่งเจ้ามาให้รักษาคุ้มครอง ปกป้องเคหา ผู้ใดมีจิตคิดร้ายขอให้กลับใจเมตตา โรคภัยนานาขออย่าได้พบพาล ลาภและยศขอให้ปรากฏขึ้นทั้งแปดทิศ มิตรขอให้เกิดขึ้นทั้งแปดด้าน ผู้ใดเห็นหน้ากูแล้วขอให้มันรัก ผู้ใดทักกูแล้วขอให้มันหลง โอม มหาสาริกา กรึง กะระณัง ตาวัง ตาวา มะมะ เอหิ สวาหะ”
การปลุกเสกท่านต้องตั้งรูปเบิกโรง บริกรรมพระคาถากำหนดจิต ให้นกสาริกาบินมาจับที่ปากโรง พุทธคุณขนาด สาริกายังบินมาจับ เป็นเมตตา มหาเสน่ห์ สูงส่งมาก ท่านให้เรียกวานขานใช้ว่าคาถาปลุกบ่อยๆ จะได้ผล อย่าว่าแต่ขายของดี เมตตาผู้หญิงรัก ผู้หญิงหลง คนวิ่งมาหา เทวดามาสงเคราะห์ เลย แม้แต่ เด็กหญิงเด็กวิ่งตามแม่ ผู้หญิงอยู่ในเรือน คนติดคุก ก็ หาทางแหก แหวก วิ่งมาหาเรา ด้วยใจปฎิพัทธ์ รักหลง ไม่รู้จักคลาย ใครมีลูกเมียแล้ว อย่าเอาไปใช้เน้อ...
สาริกาจับปากโรง สร้าง 1,112 องค์
ขนาดกว้าง 1.5 ซ.ม x สูง 3 ซ.ม.